brazil4export

Soceity Business in Industrial Technology

ไขข้อสงสัย! ทำไมธนาคารไทยต้องปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ผลกระทบจะเป็นอย่างไร?

เพิ่มอัตราดอกเบี้ย ผลกระทบ

เมื่อถึงเวลาที่ธนาคารไทยมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ผลกระทบที่เกิดขึ้นตามมาอาจจะส่งผลต่อผู้คนและเศรษฐกิจในหลาย ๆ ภาคส่วนด้วยเช่นกัน หลายคนจึงเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมถึงต้องปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นล่ะ? ถ้าหากการปรับขึ้นแล้วจะส่งผลเสียแบบนี้? แน่นอนว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นนั้นมีเหตุผลจำเป็น

อย่างที่รู้กันว่า อัตราดอกเบี้ยเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญในการกำหนดความเป็นไปของเศรษฐกิจและการเงิน หากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจถึงกระบวนการและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อวางแผนและรักษาผลประโยชน์ของตนเอง

สาเหตุที่จำเป็นต้องเพิ่มอัตราดอกเบี้ย

  1. ภาวะเงินเฟ้อ : เงินเฟ้อเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อมีการเพิ่มราคาของสินค้าและบริการต่อเนื่อง ซึ่งทำให้มูลค่าของเงินลดลง ดังนั้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นหนึ่งในมาตรการที่มีไว้เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ หลายประเทศและธนาคารกลางจึงทำการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเพื่อรักษาความมั่นคงของเงินตรา และควบคุมการเงินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
  2. การควบคุมการเงิน : ธนาคารอาจใช้การปรับอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมระบบการเงินของประเทศ โดยการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอาจช่วยลดการกู้ยืมและการใช้จ่ายที่เกินกำหนด กระตุ้นให้ผู้คนหันมาออมเงินและเก็บเงินมากยิ่งขึ้น ซึ่งการเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ผลกระทบที่เกิดขึ้นมักจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจในระยะยาวมากกว่าผลเสีย
  3. การรักษาความสมดุลในเศรษฐกิจ : การปรับอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นอาจช่วยในการรักษาความสมดุลในเศรษฐกิจ โดยอาจช่วยลดการบริโภคเพื่อรักษาสภาพเศรษฐกิจที่เสถียร และสร้างกรอบการเงินที่ยั่งยืน การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นก็เพื่อตอบสนองต่อสภาพเศรษฐกิจและการสร้างความสมดุลในตลาด
เพิ่มอัตราดอกเบี้ย ผลกระทบ

3 ข้อดีของการเพิ่มอัตราดอกเบี้ย

  1. ส่งสัญญาณให้ผู้บริโภคออมเงิน : เมื่ออัตราดอกเบี้ยถูกปรับให้เพิ่มสูงขึ้น แน่นอนว่าผู้บริโภคจะได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้นจากการฝากเงินในธนาคาร ซึ่งส่งผลให้ผู้คนมีแรงจูงใจในการออมเงินมากขึ้น เพื่อมีรายได้จากดอกเบี้ยที่ฝากเงินไว้ในธนาคารมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้คนจะประหยัดมากยิ่งขึ้นด้วย
  2. ส่งสัญญาณให้ผู้ประกอบการลดการลงทุน : การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ประกอบการต้องจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้นเมื่อต้องกู้ยืมเพื่อลงทุน ซึ่งถ้าหากมองในแง่ดี อาจส่งผลให้ผู้ประกอบการพิจารณาให้ความสำคัญกับการลดการลงทุนหรือปรับแผนการลงทุนเพื่อลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ย

    แต่บางครั้งการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลให้ธุรกิจบางภาคส่วนเร่งการลงทุนก่อนที่ดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกที่ช่วยเสริมสร้างการลงทุนและเติบโตเมื่อดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ รูปแบบการระดมลงทุนเหล่านี้อาจช่วยเพิ่มความมั่นคงและความเสถียรให้กับธุรกิจในระยะยาวได้
  3. ป้องกันภาวะเงินเฟ้อ : การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่ช่วยป้องกันการเกิดภาวะเงินเฟ้อในระยะยาว อัตราดอกเบี้ยสูงส่งผลให้ผู้คนออมเงินมากขึ้นเพื่อความมั่นคงและควบคุมหนี้สินในระดับที่ยอมรับได้ ส่วนมากมักจะไม่ก่อหนี้เพิ่มไปมากกว่าเดิม

4 ข้อเสียของการเพิ่มอัตราดอกเบี้ย

  1. ผลกระทบต่อการกู้ยืม : การเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ผลกระทบที่ส่งผลต่อผู้กู้โดยตรงคือ การทำให้ความสะดวกในการกู้ยืมลดลง ธนาคารอาจเพิกเฉยต่อการให้สินเชื่อหรือเพิ่มเงื่อนไขที่ยากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้กลุ่มผู้ที่ต้องการกู้ยืมเงินไม่สามารถทำได้ และต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้น นั่นอาจก่อให้เกิดภาระหนี้เพิ่มขึ้นสำหรับคนกลุ่มนี้
  2. ผลกระทบต่อการลงทุน : การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจะทำให้กลุ่มผู้ประกอบการที่จำเป็นต้องพึ่งพาการกู้เงินเพื่อลงทุน จะลดการลงทุนลง เนื่องจากต้องเสียค่าใช้จ่ายในดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้กลุ่มธุรกิจลดการขยายตัว ลดการจ้างงาน หรือลดการนำเข้าเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว
  3. ผลกระทบต่อการบริโภค : การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายในสินค้าและบริการลง ผู้บริโภคจะประหยัดเงินค่าใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและภาคบริการ ส่งผลให้ธุรกิจรายได้ลดลงกว่าที่ควรจะได้รับ
  4. ผลกระทบต่อค่าเงินบาท : การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะทำให้ค่าเงินบาทแข็งตัวมากขึ้น ซึ่งอาจกระทบต่อความแข็งแรงของเศรษฐกิจ ต่างชาติเข้ามาเก็งกำไรและลงทุนมากขึ้นในค่าเงินที่อัตราแลกเปลี่ยนถูกลง ส่วนภาคธุรกิจส่งออกจะได้รายรับที่น้อยลง

แม้ว่าการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจจะมีผลเสียอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ธนาคารไทยก็ยังจำเป็นต้องปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อรักษาความสมดุลในเศรษฐกิจและป้องกันภาวะเงินเฟ้อ ดังนั้นเราจึงควรวางแผนการเงินและพิจารณาความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นต่อตัวเราเองทั้งในระยะสั้นและระยะยาว